Tag: OPPO

OPPO Zero-Power Tag ได้รับรางวัล Best Inventions of 2023 จากนิตยสาร TIME พร้อมมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน

Zero-Power Tag ของ OPPO ได้รับรางวัล TIME’s list of Best Inventions for 2023  ในประเภทการทดลอง ไดรับรางวัลอันระดับนานาชาติในด้านสิ่งประดิษฐ์

Read More »

OPPO ส่งเสริมอนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นสำหรับสังคม พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนและโลกผ่านนวัตกรรมอันทรงคุณค่า

  OPPO ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ตอกย้ำพันธกิจ “Technology for Mankind, Kindness for the World” ผ่าน OPPO Inspiration Challenge Regional Demo Event ปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ ตามด้วยรอบชิงชนะเลิศที่จะจัดขึ้นที่สิงคโปร์ในปลายปีนี้ ในฐานะที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์กร OPPO ได้ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีทั่วโลกสามารถแก้ไขปัญหาสังคมที่เร่งด่วนในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมนวัตกรรมที่ทรงคุณค่าไปด้วย โครงการ Inspiration Challenge เป็นรากฐานสำคัญของความพยายามในด้านความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร (CSR) ของ OPPO โดยส่งเสริมความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเพื่อใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อสร้างสิ่งที่ดียิ่งขึ้น ความท้าทายในปีนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์ 2 ประเภท ได้แก่ “Inspiration for the People” และ “Inspiration for the Planet” ซึ่งสอดคล้องกับ Brand Proposition อย่าง “Inspiration Ahead” และการอุทิศตนเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา OPPO ได้พัฒนาด้านความยั่งยืนขององค์กรมากมายจากความสำเร็จของ Inspiration Challenge ปี 2022 ซึ่งมีการนำข้อเสนอโครงการยอดนิยม 18 โครงการมาปรับใช้ โดย OPPO จะยังคงพยายามสานต่อแรงขับเคลื่อนนี้ต่อไป แนวคิดที่สร้างความแตกต่าง OPPO Inspiration Challenge ปี 2023 ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม โดยมีข้อเสนอโครงการทางนวัตกรรมกว่า 687 รายการจาก 66 ประเทศทั่วเอเชียที่ส่งมาจากกลุ่มผู้มีความสามารถที่หลากหลายนี้ ทีมชั้นนำ 5 ทีมจากแต่ละภูมิภาค รวมทั้งหมด 15 ทีม จะเข้าร่วมค่าย Acceleration Camp โดยมีส่วนร่วมในการสนทนาเชิงลึกกับผู้บริหารของ OPPO และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค หนึ่งในข้อเสนอโครงการที่น่าสนใจที่สุด ได้แก่ Flint Paper Battery ของสิงคโปร์ โดย Flint ซึ่งเป็นองค์กรที่นำโดยเยาวชนซึ่งร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยชั้นนำของสิงคโปร์เพื่อสร้างแบตเตอรี่กระดาษ คณะกรรมการที่ปรึกษาประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากผู้กำหนดนโยบาย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และนักนวัตกรรม ซึ่งคอยให้คำแนะนำที่จำเป็นในการพัฒนาแนวคิดนี้ แบตเตอรี่กระดาษที่พัฒนาโดย Flint นำเสนอโซลูชันการจัดเก็บพลังงานที่ยั่งยืนและปลอดภัยแก่อุตสาหกรรมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน โดยสามารถย่อยสลายได้ ใช้งานได้หลากหลาย และช่วยแก้ไขปัญหาที่สำคัญภายในอุตสาหกรรม สิ่งที่ทำให้แบตเตอรี่กระดาษของ Flint แตกต่างจากโซลูชันในตลาดอื่นๆ คือความสามารถในการผลิตโดยใช้วิธีการเดียวกันกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบดั้งเดิม สิ่งนี้ทำให้ต้นทุนการผลิตที่ลดลง อัตราการใช้งานที่รวดเร็วขึ้น และโอกาสในการประยุกต์ใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น Flint ตั้งเป้าที่จะสร้างประโยชน์ให้กับทั้งโลกและมนุษยชาติ โดยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสู่โลกหมุนเวียนด้วยเทคโนโลยีแบตเตอรี่กระดาษ ในขณะเดียวกัน Backyard Creators ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรมที่มาจากอินเดีย ได้พัฒนา Impulse ซึ่งเป็นอุปกรณ์สวมใส่ภายนอกที่ช่วยให้ผู้ที่สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิดสามารถได้ยินอีกครั้งโดยไม่ต้องผ่าตัด เนื่องจากเครื่องช่วยฟังอาจมีราคาค่อนข้างแพง ซึ่งทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถเข้าถึงได้ Backyard Creators จึงพยายามลดอุปสรรคในการเข้าถึงอุปกรณ์สำคัญที่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมากให้กับชีวิตของผู้คนกว่า 70 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะนี้ทั่วโลก ท้ายที่สุดแล้ว เราจะสามารถเห็นอนาคตที่ไม่มีเด็กคนใดหูหนวกเนื่องมาจากข้อจำกัดทางการเงินผ่านอุปกรณ์ช่วยฟังที่ราคาไม่แพงและไม่ต้องผ่าตัด แม้ว่า Impulse จะประสบความสำเร็จในการสร้างแรงกระเพื่อมที่สำคัญต่อชีวิตของผู้ป่วยมากกว่า 50 รายที่สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด แต่ก็ยังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการผลิตและความสามารถในการปรับขนาดที่สำคัญ ซึ่งเป็นอุปสรรคที่ขัดขวางในการช่วยเหลือบุคคลที่ต้องการความช่วยเหลือได้มากขึ้น ด้วยความตระหนักถึงความจำเป็นในการมีส่วนร่วมกับสตาร์ทอัพที่มีความคิดเหมือนกันมากขึ้น ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับความสามารถในการขยายขนาดได้ เช่น ความคุ้มค่าและความพร้อมของทรัพยากร ผู้สร้าง Backyard Creators และผู้เข้ารอบสุดท้ายอย่าง Flint ได้หารือเกี่ยวกับแนวคิดในการขับเคลื่อน Impulse ด้วย Flint Paper Battery ที่ OPPO Inspiration Challenge Regional Demo ในกรุงเทพฯ เมื่อต้นเดือนนี้ Benew Tech จากประเทศไทยยังได้แบ่งปันสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ใน ERTIGO ซึ่งเป็นโปรแกรมการบำบัดออนไลน์เพื่อป้องกันอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดเรื้อรัง ทั้งหมดนี้ทำได้ผ่านโซลูชันแอปพลิเคชันบนมือถือที่มีแอนิเมชั่นการดูแลตนเองเชิงโต้ตอบตามหลักสรีระศาสตร์ การตรวจสุขภาพกล้ามเนื้อและท่าทางโดยใช้ AI และการเล่นเกม ซึ่งเชื่อมต่อกับคลินิกกายภาพบำบัดสำหรับแผนการดูแลตนเองเฉพาะบุคคล ปัญหาหลักประการหนึ่งที่นำไปสู่การกำหนดแนวความคิดของ ERTIGO คือข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า 80% ของพนักงานเผชิญกับภาวะออฟฟิศซินโดรมซึ่งมักจะนำไปสู่ประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำและปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง โดย ERTIGO ช่วยให้การรักษา การฟื้นฟู และการป้องกันเข้าถึงและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับทุกคนรวมถึงผู้สูงอายุ เมื่อเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของ OPPO Inspiration Challenge ปี 2023 แล้ว ERTIGO กำลังมองหาการเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญของ OPPO ผู้มีประสบการณ์หลายปีในการวิจัยและพัฒนาอัลกอริธึมของแอปพลิเคชัน ซึ่งจะช่วยให้ Benew Tech สามารถใช้ความรู้เพื่อพัฒนาแอปฯ ต่อไป ซึ่งจะเป็นการเพิ่มการมองเห็นโซลูชันทั่วโลก และลดความไม่เท่าเทียมกันด้านการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม ในขณะที่ Flint, Backyard Creators และ Benew Tech มาจากหลายประเทศ ต่างก็จัดการกับปัญหาที่แตกต่างกันอย่างมากในเรื่องประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ค่าใช้จ่ายสูงในการผ่าตัดสำหรับผู้ป่วยที่สูญเสียการได้ยินแต่กำเนิด และผู้ที่เจ็บป่วยอาการออฟฟิศซินโดรม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะจัดการกับปัญหาร่วมกับ OPPO มุ่งหน้าผ่านการใช้เทคโนโลยีช่วยพัฒนามนุษยชาติ OPPO ตั้งตารอที่จะมอบ ‘Inspiration Ahead’ ผ่านความท้าทายด้านแรงบันดาลใจนี้และในอนาคต โดยกระตุ้นให้เกิดผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนแก่คนรุ่นใหม่ ความมุ่งมั่นของ OPPO สู่ความยั่งยืน OPPO Inspiration Challenge เป็นเพียงหนึ่งในโครงการริเริ่มมากมายที่นำโดย OPPO ที่ไม่เพียงแต่จะมีความยั่งยืนมากขึ้นในฐานะบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก แต่ยังส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ผ่านนวัตกรรม เมื่อต้นปีที่ผ่านมาที่งาน MWC 2023 OPPO ได้เผยแพร่รายงาน OPPO Climate Action Report: Climate Pledges and Low Carbon Development Strategy รายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า OPPO ให้คำมั่นที่จะบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนในการดำเนินงานทั่วโลกภายในปี 2593 ด้วยการสนับสนุนทางเทคนิคจาก Deloitte ที่ปรึกษาระดับโลก รายงานสรุปประเด็นสำคัญ 5 ประการที่ OPPO จะดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ได้แก่ การผลิตที่มีคาร์บอนต่ำ การลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน การลงทุนทางเลือกที่สร้างคาร์บอนน้อยลง การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการการปล่อยก๊าซคาร์บอน และความร่วมมือด้านมาตรฐานอุตสาหกรรมเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความมุ่งมั่นของบริษัทต่อความยั่งยืนแสดงให้เห็นเพิ่มเติมผ่านรายงานความยั่งยืนประจำปี 2022 ซึ่งเผยแพร่ในวันสิ่งแวดล้อมโลกในวันที่ 5 มิถุนายนปีนี้ ตั้งแต่ปี 2020 OPPO ได้เผยแพร่รายงานความยั่งยืนในแต่ละปีเพื่อเปิดเผยแผนงานและความคืบหน้าเชิงปฏิบัติสู่เป้าหมายความยั่งยืนต่อสาธารณะ รายงานดังกล่าวเน้นย้ำถึงความก้าวหน้าที่สำคัญของ OPPO ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของ OPPO ในการสร้างความยั่งยืนในฐานะพลเมืององค์กรระดับโลก ประเด็นสำคัญ 5 ประการของรายงานมุ่งเน้นไปที่การดำเนินงานและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ การปกป้องสิ่งแวดล้อม การดูแลพนักงาน นวัตกรรมที่ทรงคุณค่า และการมีส่วนร่วมของระบบนิเวศ เมื่อปีที่แล้ว OPPO ได้เปิดตัว OPPO AndesBrain (Binhaiwan Bay) IDC ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลที่สร้างขึ้นเองแห่งแรกของแบรนด์เทคโนโลยีระดับโลกที่ใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% โดยตั้งแต่ปี 2022 ศูนย์ข้อมูลได้ใช้พลังงานหมุนเวียน 6.176 กิกะวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับการลดการปล่อยก๊าซได้ 3,600 tCO2e นอกเหนือจากการใช้พลังงานทดแทน 100% แล้ว OPPO AndesBrain IDC ยังได้สำรวจและใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำที่ล้ำหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ดังนั้น OPPO AndesBrain IDC จึงเป็นตัวอย่างของความทุ่มเทของแบรนด์ในการบูรณาการโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมทางธุรกิจ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน และลงทุนระยะยาวในการรักษาโลก นอกเหนือจากรายงานความยั่งยืนและศูนย์ข้อมูลแล้ว OPPO ยังมุ่งมั่นที่จะใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนผ่านการบูรณาการทางดิจิทัลในทุกกลุ่มอายุ เนื่องจากปัจจุบันนี้ เด็กๆ มีพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ตโฟนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การแนะนำวิธีการใช้สมาร์ตโฟนให้ถูกวิธีจึงเป็นเรื่องจำเป็น ดังนั้นในปีที่แล้ว OPPO จึงได้เปิดตัว ColorOS13 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Kids Space ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ใช้แอปเกมมากเกินไป และสำหรับผู้ใช้สูงอายุ โหมด Simple บนสมาร์ตโฟน OPPO ก็ยังช่วยมอบประสบการณ์ที่ใช้งานได้ง่ายด้วยไอคอนและแบบอักษรที่ใหญ่ขึ้น และเดสก์ท็อปที่เรียบง่าย เส้นทางสู่ความยั่งยืนย่อมต้องพบกับความท้าทาย แต่ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของ OPPO ที่มีต่อ “Technology for Mankind, Kindness for the World” จะช่วยขับเคลื่อนแนวปฏิบัติ CSR ในระยะยาว ด้วยการส่งเสริมนวัตกรรม เพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ใช้ และสร้างประโยชน์ให้กับโลก โดย OPPO จะยังคงขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อไป สนใจติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ OPPO และ Inspiration Challenge ได้ทาง https://www.oppo.com/en/proposal/

Read More »
OPPO A17

OPPO A17 สมาร์ตโฟนน้องเล็ก มอบความคุ้มค่ากว่าราคาโดนใจ ให้คุณเป็นเจ้าของได้ง่ายยิ่งขึ้น ในราคาใหม่เพียง 4,599 บาท เท่านั้น!

OPPO A17 สมาร์ตโฟนน้องเล็กพร้อมมอบประสบการณ์ใช้งานที่คุ้มค่ากว่าและราคาโดนใจยิ่งขึ้น ด้วยราคาใหม่สุดพิเศษ 4,599 บาท จากราคาปกติ 5,499 บาท

Read More »

OPPO Find N2 Flip เปิดตัวอัปเดตวิดเจ็ตหน้าจอด้านนอกใหม่ รองรับการใช้งาน Line และ TikTok แล้ว ให้ผู้ใช้ ใช้งานได้มากกว่าที่เคย

OPPO Find N2 Flip ได้มีการอัปเดตวิดเจ็ตหน้าจอด้านนอกให้สามารถรองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Line และ TikTok ได้แล้ว โดยสามารถรับสายเรียกเข้าและโทรออกที่หน้าจอด้านนนอกได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าจอ

Read More »

ใหม่! ออปโป้วางจำหน่าย OPPO A58 สมาร์ตโฟนราคาคุ้มค่า มาพร้อม RAM 6GB เพิ่มหน่วยความจำได้อีก 6GB พร้อม ROM 128GB และลำโพงสเตอริโอคู่ พร้อมให้คุณใช้งานเต็มพิกัด ทุกความบันเทิง

สมาร์ตโฟนราคาคุ้มค่า มาพร้อม RAM 6GB เพิ่มหน่วยความจำได้อีก 6GB พร้อม ROM 128GB และลำโพงสเตอริโอคู่ พร้อมให้คุณใช้งานเต็มพิกัด ทุกความบันเทิง

Read More »

OPPO คว้าอันดับ 1 ในประเทศจีนและอันดับ 4 ในการส่งออกสมาร์ตโฟนทั่วโลก ในครึ่งปีแรกของปี 2023 ด้วยความสำเร็จจาก OPPO Find N2 Flip

OPPO ครองส่วนแบ่ง 10% ของตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกในครึ่งปีแรก โดยมียอดส่งออก 51.9 ล้านเครื่อง และครองส่วนแบ่ง 18% ในตลาดสมาร์ตโฟนจีน

Read More »

OPPO Reno10 Series 5G สมาร์ตโฟน The Portrait Expert กับกล้องพอร์ตเทรตซูมได้ ได้กระแสตอบรับล้นหลาม ยอดขายอันดับ 1 ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มวางจำหน่าย!

  วางจำหน่ายแล้ววันนี้ “OPPO Reno10 Series 5G” หลังเปิดตัวแรง กระแสตอบรับดีเยี่ยมกวาดยอดขายเป็นอันดับ 1 ในตลาดสมาร์ตโฟนช่วงราคา 10,000 – 20,000 บาท ตั้งแต่วันแรกที่เริ่มวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อย เปิดตัวแรง ยอดขายพุ่งกระฉูด! OPPO Reno10 Series 5G สมาร์ตโฟน The Portrait Expert ที่มาพร้อมกับกล้อง Telephoto Portrait Camera กล้องพอร์ตเทรตซูมได้เป็นครั้งแรกในสมาร์ตโฟนราคาระดับกลาง ให้ภาพพอร์ตเทรตที่คมชัดไปอีกขั้น โดยวางจำหน่ายใน 3 รุ่นได้แก่ OPPO Reno10 5G ราคา 13,990 บาท, OPPO Reno10 Pro 5G ราคา 17,990 บาท และ OPPO Reno10 Pro+ 5G ราคา 27,990 บาท โดย OPPO Reno10 Series 5G ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเกิดคาดทั้งจากสื่อมวลชน ลูกค้าและตัวแทนจำหน่ายหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ โดยบรรยากาศในงาน OPPO Reno10 Series 5G First Sale Event ที่ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตเป็นไปอย่างคึกคัก มีการจัดพื้นที่ให้แฟนๆ ออปโป้ได้มาต่อคิวรับเครื่องวันแรกพร้อมรับของสมนาคุณสุดพิเศษ พร้อมเต็มอิ่มไปกับมินิคอนเสิร์ตจากวงบอยแบนด์สุดฮอต Proxie ที่รอบนี้ขนเพลย์ลิสต์เพลงมาแบบจัดเต็มสร้างสีสันให้กับแฟนๆ ที่มารอรับชนกันแบบเต็มอิ่ม พร้อมส่งมอบประสบการณ์การใช้งาน OPPO Reno10 Series 5G อย่างเต็มรูปแบบ   OPPO Reno10 Series 5G สมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดมาพร้อมกล้องพอร์ตเทรตซูมได้ มอบการถ่ายภาพพอร์ตเทรตที่ใกล้กว่า โดดเด่นกว่า   โดย OPPO Reno10 5G เป็นสมาร์ตโฟนระดับกลางรุ่นแรกในอุตสาหกรรมที่มาพร้อมกล้อง 32MP Telephoto Portrait Camera กล้องพอร์ตเทรตซูมได้ ถ่ายภาพพอร์ตเทรตแบบซูมออปติคอลได้ถึง 2 เท่า ทำให้ได้ภาพตัวแบบที่ใกลและโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมเซ็นเซอร์ RGBW IMX709 ขนาดใหญ่จับภาพที่มีความละเอียดสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ตโฟนกลุ่มราคานี้ พร้อมระบบกล้องอันทรงพลัง Ultra-Clear Portrait Camera ประกอบด้วยระบบกล้องหลัก 64MP Ultra-Clear Main Camera, กล้อง 32MP Telephoto Portrait Camera พร้อมกับเซ็นเซอร์ IMX709, กล้อง 8MP Ultra Wide Angle 112° และกล้องเซลฟี่ 32MP Ultra-Clear Selfie Camera ที่ผสานการทำงานร่วมกันเพื่อภาพถ่ายพอร์ตเทรตอันยอดเยี่ยมเพียงคลิกเดียว พร้อมแมทช์ทุกลุคสวยด้วยดีไซน์ระดับพรีเมียม 3D Dual – Curved มาพร้อมหน้าจอ AMOLED 3D Curved ขนาด 6.7 นิ้ว ขอบจอโค้งบางเฉียบรับการจับถือได้อย่างสบายมือ และอัตราการรีเฟรชสูงพิเศษถึง 120Hz มอบประสบการณ์ การรับชมภาพที่ลื่นไหล มาใน 2 สีใหม่สะดุดตา ได้แก่ สีฟ้า Ice Blue และ สีเทา Silvery Grey นอกจากนี้ OPPO Reno10 5G ยังมาพร้อมประสิทธิภาพทรงพลังลื่นไหลรอบด้านด้วยแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh มาพร้อมระบบชาร์จไว 67W SUPERVOOCTM  ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดวัน OPPO Reno10 Pro 5G โดดเด่นด้วยประสิทธิภาพที่ก้าวไปอีกขั้นด้วย โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีชาร์จไว 80W SUPERVOOCTM ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% ในเวลาเพียง 28 นาที พร้อมชิปการจัดการพลังงานเอกสิทธิ์ของบริษัท SUPERVOOC S ที่ใช้ในสมาร์ตโฟนตระกูล Reno Series เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่ช่วยลดพื้นที่ใช้สอยของส่วนประกอบในการชาร์จได้รวดเร็วถึง 45% ในขณะที่เพิ่มประสิทธิภาพการคายประจุแบตเตอรี่เป็น 99.5% สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่เป็นที่สุดของ The Portrait Expert มาใน 2 สีพรีเมียมอย่าง สีม่วง Glossy Purple และ สีเทา Silvery Grey OPPO Reno10 Pro+ 5G สมาร์ตโฟนที่ถ่ายพอร์ตเทรตสวยที่สุดแห่งปีด้วยพลังของกล้อง 64MP Telephoto Portrait Camera ระดับโปรที่สามารถซูมออปติคอลสูงสุดถึง 3 เท่า พร้อมด้วยกล้อง Periscope Telephoto สเปคสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ชาร์จไวระดับแฟลกชิปเร็วที่สุดใน Reno Series ด้วย 100W SUPERVOOCTM สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 1% ถึง 50% ได้ภายใน 9.30 นาที และยังมีชิปการจัดการพลังงานของ SUPERVOOC S เช่นเดียวกัน โดยทั้ง 2 รุ่นมาในดีไซน์แบบ 3D Dual – Curved ขอบจอและตัวเครื่องบางเฉียบ ในสีใหม่มีเสน่ห์ระดับไฮเอนด์ ได้แก่ สีม่วง Glossy Purple และสีเทา Silvery Grey เป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้กับ OPPO Reno10 Series 5G สมาร์ตโฟน The Portrait Expert ครั้งแรกที่มาพร้อมกล้องพอร์ตเทรตซูมได้ วางจำหน่ายใน 3 รุ่น ได้แก่ OPPO Reno10 5G วางจำหน่ายในราคา 13,990 บาท , OPPO Reno10 Pro 5G วางจำหน่ายในราคา 17,990 บาท และ OPPO Reno10 Pro+ 5G วางจำหน่ายในราคา 27,990 บาท และพิเศษเมื่อซื้อกับผู้ให้บริการเครือข่าย AIS ,dtac และ true รับส่วนลดสูงสุด 8,100 บาท สามารถไปทดลองสัมผัสและเป็นเจ้าของได้แล้วที่ OPPO Brand Shop และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ติดตามรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3DkqGVo

Read More »
Scroll to Top